ในขณะที่คุณกำลังครุ่นคิดว่าจะซื้อ Bitcoin ดีหรือไม่ ผู้นำการจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง BlackRock กำลังเพิ่มการถือครอง ETH อย่างแข็งขันในกองทุนโทเค็นของตน, BUIDL

การเคลื่อนไหวนี้เป็นการเน้นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบันในสินทรัพย์คริปโตเคอเรนซีและการรวมเข้ากับเครื่องมือทางการเงินแบบดั้งเดิม BUIDL น่าจะมอบโอกาสให้นักลงทุนเข้าร่วมในระบบนิเวศ Ethereum ได้โดยอ้อมโดยไม่ต้องถือครอง ETH โดยตรง ซึ่งช่วยลดอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดและทำให้กระบวนการลงทุนง่ายขึ้น

การเพิ่มขึ้นของการถือครอง ETH ของ BlackRock อาจส่งผลเชิงบวกต่อราคาของ Ethereum โดยการกระตุ้นความต้องการและสภาพคล่องในตลาด นอกจากนี้ยังเป็นสัญญาณให้แก่ผู้เล่นสถาบันอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนให้พวกเขาสำรวจโอกาสในสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชน ด้วยการแสดงความเชื่อมั่นใน ETH ทำให้ BlackRock แสดงถึงความชอบธรรมใน cryptocurrency ในฐานะสินทรัพย์ประเภทหนึ่งที่สมควรได้รับความสนใจจากนักลงทุนรายใหญ่ การดำเนินการในอนาคตของ BlackRock ในด้านนี้จะถูกติดตามอย่างใกล้ชิดจากตลาด นอกจากนี้ ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมปีนี้ จำนวนกระเป๋าวาฬที่ถือระหว่าง 10,000 ถึง 100,000 ETH ได้เพิ่มขึ้น 30% แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นใหญ่กำลังสร้างตำแหน่งในสินทรัพย์นี้อย่างจริงจัง ในเวลาเดียวกัน จำนวน BTC ที่อยู่ในบัญชีของ Strategy ก็เกิน 500,000 BTC บริษัทถือครอง BTC จำนวน 506,137 BTC ที่ราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ $66,608 ซึ่งคิดเป็น 2.4% ของจำนวน BTC ทั้งหมด

การที่ Bitcoin มีกระจุกอยู่ในมือของบริษัทเดียวสร้างทั้งความนับถือและความกังวล ในด้านหนึ่ง ยืนยันถึงความเชื่อของ Strategy เกี่ยวกับศักยภาพระยะยาวของ cryptocurrency ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ส่วนแบ่งตลาดที่มากในความควบคุมของผู้เล่นรายเดียวอาจส่งผลต่อความผันผวนและความเสถียรของราคาของ BTC อย่างไรก็ตาม สถานการณ์นี้เสริมสร้างความเชื่อที่แข็งแกร่งในสินทรัพย์นี้โดยผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อราคาของคริปโตเคอร์เรนซี่แรกของโลก สำหรับผู้ที่สนในคริปโต ในบทความล่าสุดของ Arthur Hayes เขาระบว่า Bitcoin อาจขึ้นถึง $110,000 ก่อนจะทดสอบระดับ $76,500 ใหม่

ปัจจัยขับเคลื่อนนี้จะเกิดจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเกือบจะเสร็จสิ้นกระบวนการ Quantitative Tightening (QT) ภายในวันที่ 1 เมษายน และอาจเริ่มดำเนินการ Quantitative Easing (QE) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การลดขนาดของงบดุลธนาคารกลาง นำสภาพคล่องออกจากตลาด สร้างความกดดันต่อราคาสินทรัพย์ การหยุดกระบวนการนี้และการเปลี่ยนไปสู่ QE อาจทำให้เกิดการเคลื่อนไหวขึ้นของ Bitcoin และตลาด cryptocurrency โดยรวม

สิ่งที่สำคัญคือ แม้ว่า Hayes จะแสดงความคิดเห็นที่ดึงดูดความสนใจในชุมชนคริปโต แต่นี่เป็นเพียงสถานการณ์หนึ่งที่เป็นไปได้ ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่นั้นไม่สามารถคาดการณ์ได้และได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยนอกเหนือจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ในส่วนของภาพรวมทางเทคนิคของ Bitcoin ขณะนี้ผู้ซื้อมุ่งเป้าไปที่การกลับมาสู่ระดับ $88,700 ซึ่งจะเปิดเส้นทางสู่ $90,600 จากนั้นใกล้ระดับ $92,700 เป้าหมายสูงสุดคือยอดที่ประมาณ $93,900 และการก้าวข้ามระดับนี้จะเป็นสัญญาณถึงการกลับเข้าสู่ตลาดขาขึ้นในระยะกลาง ในกรณีที่ Bitcoin ลดลง คาดว่าผู้ซื้อจะพบได้ที่ระดับ $87,000 การลดลงของเครื่องมือต่ำกว่าพื้นที่นี้อาจทำให้ BTC ลดลงอย่างรวดเร็วสู่ภูมิภาค $85,000 โดยมีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ $83,200

เกี่ยวกับภาพทางเทคนิคของ Ethereum การคงตัวที่ชัดเจนเหนือระดับ $2,067 จะเปิดทางตรงไปสู่ $2,100 เป้าหมายที่ไกลสุดจะอยู่ที่ระดับสูงสุดประจำปีรอบ $2,143 และการผ่านระดับนี้จะบ่งชี้ถึงการกลับสู่ตลาดกระทิงในระยะปานกลาง ในกรณีที่เกิดการตก คาดว่าผู้ซื้อจะเข้ามาที่ระดับ $2,032 การกลับต่ำกว่าพื้นที่นี้อาจดึง ETH ลงไปอย่างรวดเร็วสู่เขต $2,000 โดยมีเป้าหมายที่ไกลสุดที่ $1,974