ความคาดหวัง vs. ความเป็นจริง ผู้สร้างสกุลเงินดิจิทัลเคยมีวิสัยทัศน์ที่จะสร้างจักรวาลที่มีโทเค็นมากมายมาแข่งขันกันเพื่อเงินทุนของนักลงทุน แต่ในความเป็นจริง ยกเว้น Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนหนึ่ง ที่เหลือก็มักไม่มีความจำเป็น ในปี 2025 เพียงปีเดียว มูลค่าตลาดของ altcoin ได้สูญเสียไปประมาณ 300 พันล้านดอลลาร์ และได้ร่วงลงอย่างต่อเนื่องจากนั้น แม้แต่ Ethereum ซึ่งเป็นโทเค็นใหญ่อันดับสองก็ยังคงดิ้นรนที่จะแข่งขันกับผู้นำ ขณะที่ BTC/USD ได้ทำลายสถิติหลายครั้ง ส่วน Ethereum นั้นยังอยู่ไกลจากจุดสูงสุดตลอดกาล

ประสิทธิภาพของ Bitcoin vs. altcoin

กฎระเบียบ การสนับสนุนจากภาครัฐ และโครงสร้างพื้นฐานของสถาบันที่แข็งแกร่งขึ้น ได้กลายเป็นส่วนสำคัญสำหรับความสำเร็จของสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ว่าโทเคนทั้งหมดจะแต่ละตัวจะพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ Donald Trump กลับมาสู่ทำเนียบขาว แต่ภายในกลางปีนี้ ก็เห็นได้ชัดเจนว่าพวกมันมีความแตกต่างในสาระสำคัญ ดัชนี MarketVector ซึ่งติดตามสินทรัพย์ดิจิทัลช่วงครึ่งล่างของยอด 100 ดัชนี ร่วงลงไป 50% ในขณะที่ความโดดเด่นของ Bitcoin ในมูลค่าตลาดรวมของคริปโตเพิ่มขึ้น 9 จุด เปอร์เซ็นต์ ไปถึง 64%.

การรัลลี่ของ BTC/USD ได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากการพัฒนาเครื่องมือทางการเงินซึ่งมักเป็นของตลาดแบบดั้งเดิม สัญญาซื้อขายล่วงหน้าและ ETF เฉพาะทางได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับทั้ง Bitcoin และ Ethereum การไหลเข้าของเงินทุนสู่ ETF เหล่านี้เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ผลักดันการเติบโตของราคาพวกมัน

การไหลเข้าของเงินทุนสู่ ETF ที่เน้น Bitcoin และ Ethereum

กฎระเบียบมีบทบาทสำคัญในการแยกสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำจากเหล่าที่กำลังมุ่งสู่การสูญหาย กฎหมายใหม่เกี่ยวกับ stablecoin ได้ก่อให้เกิดการเพิ่มขึ้นของมูลค่าตามราคาตลาดจำนวน 47 พันล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา บางบริษัทใหญ่เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับสินทรัพย์ประเภทนี้มากขึ้น เช่น Amazon กำลังสำรวจศักยภาพของมัน ในขณะที่บริษัทอย่าง Coinbase, Kraken และ Robinhood กำลังทำงานเพื่อเปลี่ยนหุ้นให้เป็นรูปแบบดิจิทัล (tokenize) เพื่อสร้างระบบการซื้อขายที่รวดเร็วและใช้งานง่าย

ด้วยเหตุนี้ โครงสร้างของตลาดคริปโตแอสเซทกำลังเปลี่ยนแปลง โดยถูกผลักดันจากกฎระเบียบ การออกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และท่าทีของรัฐบาลที่เริ่มเอื้อต่อสินทรัพย์ดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ความสนใจใน Bitcoin และ stablecoins กำลังเพิ่มขึ้น ในขณะที่ altcoin หลายชนิดมีความเสี่ยงที่จะสูญสลายไป ส่วนที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้คือการแยกแยะบทบาทให้ชัดเจน: stablecoins ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือในการชำระเงิน ในขณะที่ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำหรับซื้อขาย

ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่าง BTC/USD กับดัชนีหุ้นของสหรัฐฯ ยังให้สัญญาณเกี่ยวกับแนวโน้มในอนาคตของ Bitcoin ได้อีกด้วย ความพร้อมที่จะรับความเสี่ยงของนักลงทุนทั่วโลกเป็นปัจจัยสำคัญในแง่มุมนี้ ในบริบทนี้ การทำสถิติสูงสุดใหม่ใน S&P 500 กำลังเป็นพื้นฐานสำหรับการขึ้นราคาของ Bitcoin ที่อาจเกิดขึ้นได้อีกครั้ง

ในทางเทคนิคแล้ว กราฟรายวันของ BTC/USD อาจกำลังสร้างรูปแบบการกลับตัวแบบ broadening wedge สำหรับรูปแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีการป้องกันแนวต้านที่ระดับ 110,700 หากเกิดการ breakout ก็จะเป็นสัญญาณให้เพิ่มสถานะ long แต่ถ้าการทดสอบล้มเหลว อาจนำไปสู่การกลับตัวของราคา